วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เว็ปติดตามข่าว

ข่าวใน forexfactory จะประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ High (ข่าวสีแดง), Middle(สีส้ม) , Low impact (สีเหลือง) 1) สีแดงจะเป็นข่าวที่ส่งผลมากที่สุด เป็นข่าวที่ความสำคัญมากซึ่งก็มีดังนี้
ข่าวสีแดง
1 Non farm Payrolls
2 Unemployment Rate
3 Trade Balance
4 GDP ( Gross Domestic Production )
5 PCE Price Deflator ( Personal Consumption Expenditure)
6 CPI ( Consumer Price index )
7 TICS ( Treasury International Capital System )
8 FOMC ( Federal open Market committee meeting )
9 Retail Sales
10 Univ. Of Michigan Consumer Sentiment Survey
11 PPI ( Producer Price Index )
ระดับความแรงของมันอยู่ที่ +-100 up ซึ่งเกิด ถายในระยะเวลาอันสั้นหลังตัวเลข actual ได้ออก แล้วหลังจากนั้น แนวโน้มของมันก็จะเป็นไปตามข่าว

2) ข่าวสีส้ม ก็จะส่งผลน้อยกว่าข่าวสีแดง ซึ่งก็มี
1. Weekly Jobless Claims
2. Personal Income
3. Personal spending
4. BOE Rate Decision ( Bank Of England )
5. ECB Rate Decision ( Europe Central Bank )
6. Durable Goods orders
7. ISM Manufacturing Index ( Institute of Supply Manager )
8. Philadelphia Fed. Survey
9. ISM Non-Manufacturing Index
10. Factory Orders
11. Industrial Production & Capacity Utilization
12.Non-Farm Productivity
13.Current Account Balance
14. Consumer Confidence ( Consumer Sentiment )
15.NY Empire State Index - ( N
9:47:04 PM pipshamster 18.IFO Business Index ( Institute of IFO in Germany )

ข่าวสีเหลือง เป็นข่าว ที่ไม่ค่อยจะส่งผลเท่าไรนัก มีความสำคัญระดับปานกลาง
** ตัวเลข ที่ออก มา ก็จะมีสามสีเช่นกัน 1.สีเขียว หมายความว่า ข่วนั้นออกมาดี ส่งผลทำให้ค่าเงินดี โดยปกติ ค่าที่ออกมานั้น จะต้องดีกว่า ค่าที่คาดการณ์เสมอ 2. ตัวเลขสีแดง หมายความว่า ข่าวนั้นไม่ดี ตัวเลขที่ออกมา ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

การดูข่าวเทียบกับ currency pair ที่เราเล่น
1. ตัวอย่าง ถ้าเราเล่น Eur/USD โดยมีข้อสังเกตดังนี้
1.1 EUROPE Season ถ้าข่าวของ EUR ออกมาดี จะส่งผลให้ EUR/USD ขึ้น ถ้าออกมาไม่ดี จะผลให้ EUR/USD ลง (ข่าวจะมีประมาณ บ่ายโมง - 6โมงเย็นบ้านเรา โดยส่วนมาก ยกเว้นดอกเบี้ย (6.45)กะ speech ทั้งหลายแล้วแต่ว่าจะแถลงการณ์ตอนไหน)
1.2 ตลาด นิวยอร์ต ช่วงเวลา 1 ทุ่ม บ้านเรา ถึง ตีสี่ ข่าวส่วนมากสำหรับช่วงนี้จะออก เวลา 19.30 น ถ้าข่าว ของ USD ออดมาดี หมายความว่า ดอลล่าแข็ง ที่ เค้าพูดๆ กัน ส่งผลให้ EUR/USD ร่วง ถ้าข่าวออก USD ออกมาไม่ดีหรือว่า ดอลล่าอ่อน จะส่งผลให้ EUR/USD พุ่งขึ้นไป Actual : คือ ตัวเลขที่ประกาศจริง
Forecast : คือ ตัวเลขที่ประมาณการไว้
Previous : คือ ตัวเลขที่เคยประกาศครั้งก่อน

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตารางแผนการเทรด

ถ้าสามารถทำได้ตามแผนที่ตั้งไว้รับรองได้ตังมาใช้แน่

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิธีใช้โปรแกรม ट्रेडของ Marketiva

การใช้โปรแกรม trade ของ Marketiva
พอ Login เข้าไปก็จะเจอหน้าจอนี้



ส่วนที่1 Forex rate เป็นส่วนที่แสดงราคาของคู่เงินต่างๆที่มีให้เราเทรดกัน


ตัวอย่าง EUR/USD หมายถึงเงินยูโรเทียบกับเงินดอล ราคา 1.2814 หมายความว่า 1 EUR = 1.2814 USD

Last- ราคาในตลาดตอนนี้
Bid - ราคาขายของค่าเงินนั้น ๆ ถ้าเราสนใจจะขายเราก็จะขายได้ในราคานั้น
Offer - ราคาซื้อ ของค่าเงินนั้นๆ ถ้าเราสนใจจะซื้อ เราก็จะซื้อได้ในราคานั้น
Change – ผลต่างจากราคาตอนเปิดตลาด ( ตลาดเปิดตี 5 )
High - ราคาสูงสุดของวันนี้
Low - ราคาต่ำสุดของวันนี้
Open - ราคาเปิดตลาดของวันนี้

สีเขียว หมายถึง เพิ่มขึ้น (จากวินาทีที่แล้ว)
สีแดง หมายถึง ลดลง
สีดำ หมายถึง เท่าเดิม

การเพิ่ม-ลบคู่เงิน ทำได้โดยการกดที่ปุ่ม Subscriptions ส่วนข้างบนจะแสดงรายการค่าเงินที่เรา add ไว้แล้ว ถ้าจะเอาตัวไหนออก ก็กดที่ค่าเงินนั้น แล้วกดที่ Remove ส่วนด้านล่าง แสดงค่าเงิน ที่เราสามารถเพิ่มเข้ามาได้ ให้กดที่ search แล้วระบบจะแสดงค่าเงินทั้งหมดออกมา จะเพิ่มตัวไหนก็กดที่ค่าเงินนั้นๆ แล้วกด Subscribe



ส่วนที่ 2 Chart เป็นส่วนที่แสดงกราฟของคู่เงินต่างๆ ในส่วนนี้จะใช้ในการวิเคราะห์การซื้อ-ขาย จะขอกล่าวถึงทีหลังในหัวข้อ Technical Analysis ( การวิเคราะห์ทางเทคนิค )


ส่วนที่ 3 Fortfolio เป็นส่วนที่แสดงจำนวนที่มีอยู่ของเรา ซึ่งจะมีอยู่ 2 Desk คือ
Virtual Forex เงินปลอมจำนวน $10000 เอาไว้หัดเทรดก่อนจะลงเงินจริง
Live Forex เงินจริงโบนัสจากการสมัคร $5 ( หากมี $2.5 ต้องทำการโอนมาจาก Live Funds โดยไปที่ Account Center --> Transfer Funds )

* เงินจริง $5 หากเล่นเสียจนหมด ห้ามสมัครใหม่เพื่อเอาโบนัสซ้ำเด็ดขาด คุณจะถูกแบนทันที ดังนั้นควรหัดเงินปลอมให้เก่งก่อนจะลงเงินจริง หรือจะ Deposit เงินตัวเองเข้ามาก็ได้

ส่วนที่ 4 Position แสดงรายการ Order ซื้อ-ขาย ของเรา


การเปิด Order ซื้อ - ขาย

การเทรดฟอเรก สามารถทำกำไรได้ 2แบบ คือ

Buy หรือ Long คืออการซื้อถูก แล้วขายแพง หรือเล่นแบบขาขึ้นนั่นเอง
Sell หรือ Short คือการขายแพงไปก่อน แล้วค่อยซื้อกลับมาเมื่อราคาต่ำลง



จากรูปตัวอย่าง หากเราจะซื้อEUR/USD จะได้ราคา 1.4828 และถ้าขายจะได้ราคา 1.4826 ซึ่งจะต่างกันอยู่ -2 pips( ส่วนต่างของราคา จะเรียกว่า Pips ไม่เรียกว่า point หรือ จุด เพราะมันเป็นทศนิยมหลายตำแหน่ง แต่คนไทยนิยมเรียกว่าจุดนั่นแหละเพราะความเคยชิน)

ส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายตรงนี้เรียกว่า Spread ซึ่งเป็นค่าน้ำชาหรือค่าต๋งที่เราต้องเสียให้กับโบรกเกอร์

จะ เห็นว่าคู่ที่มีค่า Spread ต่ำสุดก็ EUR/USD เป็นตัวที่เหมาะที่สุดแล้วกับมือใหม่เพราะเสียค่าต๋งน้อย ราคาไม่ค่อยผันผวนนัก วิเคราะห์ง่ายที่สุดว่ามันจะขึ้นหรือลง

หากจะซื้อ(เล่นแบบLong)คลิกที่ช่อง Offer และขาย(Short)คลิกที่ Bid




Instrument - สกุลเงิน ( เลือกไว้ให้แล้ว )
buy/sell - ชนิดของการทำรายการ ว่า ซื้อ หรือ ขาย ( เลือกไว้ให้แล้ว )
price - ราคา(ปัจจุบัน)
price type - มีให้เลือกว่าจะซื้อ-ขายหรือ หรือจะตั้งซื้อขายล่วงหน้า( จะกล่าวถึงทีหลัง ) ไม่ต้องเลือก
quantity - จำนวนเงินหน่วยเป็นเซนต์ ไม่ควรเทรดเกิน 20% ของเงินที่มี( $1 = 100 เซนต์ )
quantity type - ชนิดของจำนวน
exist stop loss – ตั้งค่าให้ปิด Order อัตโนมัตที่ราคาไหน ใช้ในกรณีขาดทุนหรือกำไรลดลง
exit target – ตั้งค่าให้ปิด Order อัตโนมัติเมื่อได้กำไรระดับราคาที่เรากำหนด
desk - ชนิดของตังที่ลง (จริงหรือปลอม)


เช่น Long EUR/USD ที่ราคา 1.4820 จะเอากำไร +50 pips ก็ตั้ง exit target ไว้ 1.4870 และถ้าไม่ได้กำไร จะยอมขาดทุนที่ -50 pips ก็ใส่ exist stop loss ที่ 1.4770

การปิดการซื้อขาย Close Order

เมื่อเราทำกำไรถึงจุดๆนึงแล้ว คิดว่ามันไม่ไปต่อแล้ว จะปิดการซื้อ-ขายเพื่อเอากำไร หรือฝรั่งเรียกว่า Take Profit ให้ทำใน ส่วนที่ 4 Position คลิ กในบรรทัดของออเดอร์ที่ต้องการปิด แล้วเลือก Close คลิก Yes ยืนยันอีกที ตรงช่อง Status จะเปลี่ยนจาก Open เป็น Closed กำไรหรือขาดทุนเท่าไรดูที่ช่อง Profits

เวลาเปิด-ปิดตลาด
เราสามารถเล่น Forex ได้ เช้าวันจันทร์ตี 4 ถึง คืนวันศุกร์ ตี 4 ( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)
เล่นได้ 24 ช.ม. ต่อวัน อาทิตย์ละ 5 วัน มีตลาด forex ใหญ่ ของโลกประมาณ 4-5 แห่ง คือ usd japan เป้นต้น แต่ละตลาดก็ เปิดและ ปิด คาบเกี่ยวกัน ตลาดยุโรปเปิด ตลาดเอเชียก็ปิด ทำให้ เราเล่น Forex ได้ 24 ช.ม.

ช่วงเวลาที่ควรเล่น คือช่วงเวลาเปิดตลาดยุโรป บ่าย2 ถึง 5โมงเย็น และอเมริกา ทุ่มครึ่ง ถึง เที่ยงคืน( บวกหนึ่งชั่วโมงในหน้าหนาวยุโรปตามเวลา DST)

Margin Requirement 1%

มาจิ้น คือ จำนวนเงินในบัญชีของเราที่โปรแกรมจะใช้มาคำนวณในการเทรด ดูใน ส่วนที่ 3 Fortfolio

Avilable Margin : คือจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ที่สามารถเอาไปใช้เทรดได้
Used Margin : คือ จำนวนเงินที่ใช้ไป

ตรง นี้จะต้องระวังนิดนึงไม่ให้มาจิ้นหมด เมื่อเราขาดทุนติดลบมาจิ้นจะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าหมดมันจะสั่งปิด Order ของเราที่เปิดอยู่ เพื่อป้องกันการขาดทุนของโบรกเกอร์ ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับ Leverage แต่จะไม่ขออธิบายให้ปวดหัวเล่น

ตัวอย่างการคำนวณมาจิ้น

มี เงิน $5 = 500 cent ก็เท่ากับ มาจิ้น $5 ด้วย เมื่อซื้อ EUR/USD(อียู) มา 1 Order ( คนไทยเรียกว่า 1โพ ย่อมาจาก Position ) จำนวน 100 cent

Avilable Margin = 500 - 100 เหลือ 400 หรือ $4.00
เมื่ออียูที่ซื้อมา +10 จุดละ 1% 10จุดของ100 ก็ +10 cent
Avilable Margin = 400 + 10 = 410
แต่ถ้าอียูที่ซื้อมา -100 จุดละ 1% 100จุดของ100 ก็ -100 cent หรือ -1.00 $
Avilable Margin = 400 + 100 = 300

ถ้า อียูที่ซื้อมา -400 มาจิ้นก็จะหมด อียูก็จะโดนปิดอัตโนมัติ ตังก็จะหายไป 400 cent ได้ Used margin คืนกลับมา 100 cent เอาไว้เทรดต่อได้อีก

แต่ ถ้าไม่มีระบบมาจิ้น เราก็จะหมดตัวที่ -500 ไม่เหลือตังมาเทรดต่อได้อีกเลย พอจะเห็นภาพไหมครับระบบมาจิ้นเขาทำมาไม่ให้เราหมดตัวนะนี่ ที่จริงแล้วมันจะปิดตั้งแต่มาจิ้นเหลือ 1% เทียบกับ Used Margin แต่ตัวอย่างผมคำนวณที่ 0% เพราะขี้เกียจจิ้มเครื่องคิดเลขนะ 1% กับ 0% มันไม่ต่างกันหรอก


Chat Groups

ใน โปรแกรม Streamster นั้นมีห้องแชทสำหรับชาวไทยโดยเฉพาะอยู่ด้วย ในส่วนที่ 2 ให้คลิกที่ Discussion --> Group เลือก Thailand แล้วคลิกปุ่ม OK


การแสดงตัวกับ Marketiva

ส่งเอกสารแสดงตัวตน

การแสดงตน (Identify Yourself ) กับทาง Marketiva ต้องส่งเอกสารแสดงตัวมิฉะนั้นจะเบิกเงินไม่ได้


1. เข้าสู่ www.marketiva.com แล้วคลิ๊กที่ Account Center




2. ใส่ Username และ Passoword คลิ๊กที่ Log On




3. คลิ๊กที่ Services




4. คลิ๊กที่ Identify Yourself





5. ใส่ภาพลงในหัวข้อทั้ง 2 โดยมีขนาดไม่เกิน 100 K และต้องเป็น JPEG FORMAT เท่านั้น แล้วคลิ๊กที่ Upload (สีแดงด้านบน คือ การ Log Off)



6. รอเวลา 1 - 2 วัน ถ้าผ่านการตรวจสอบแล้ว จะเป็นดังภาพ
ตัวอย่างเอกสารใบเสร็จค่าใช้จ่าย (ไม่ควรเกิน 60 วัน)
(Scan ส่งไปด้วยขนาดไม่เกิน 100 K และเป็น JPEG FORMAT เท่านั้น)




Marketiva

หาเงินง่ายๆกับการเล่นหุ้นใน Marketiva

เล่นหุ้นกับ Marketiva
Marketiva เป็น บริษัทที่ให้บริการในการเล่นเก็งกำไรค่าเงิน หรือ Forex trading services Marketiva Corporation เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ Switzerland หมายเลข Registration number IBC CAP. 291 Reg. № 646819 อยู่ภายใต้หน่วยงาน Jurisdiction of Financial Services Commission (FSC) Marketiva เปิดตัวช่วงต้นปี 2005 ที่ผ่านมา ด้วยสโลแกนที่ว่า "Forex ใครๆ ก็เล่นได้" ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 1$ ดอลลาร์ พร้อมด้วยเงินโบนัสเริ่มต้นเทรดฟรี $5 ดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้ Marketiva กลายเป็นบริษัท Forex ที่ร้อนแรง มีคนให้ความสนใจ และไปเปิดบัญชีลงทุนกันอย่างมากมาย



วิธีการสมัคร Marketiva

1. คลิกที่ป้ายเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์











2. คลิกที่ Open an Account ดังรูป









3. กรอกข้อมูลภาษาอังกฤษตามความเป็นจริง ทุกช่องที่มี * สีแดง คลิก Continue






4. เลือก Template เป็น Standard หรือ Compact ก็ได้ ( แนะนำให้เลือก Compact ) เลือกคำถามช่วยจำ กด Next







5. คลิกทำเครื่องหมาย / เพื่อยอมรับข้อตกลง คลิก Finish







6. Download และติดตั้งโปรแกรม Streamster ลงบนคอมพิวเตอร์ ( ไม่ควรลอกอินหลาย Account บนคอมเครื่องเดียวกัน Account ที่ยังไม่ผ่านการยืนยันตัวตนจะโดนแบนทันที )


วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เทคนิคการจัดแสง

เทคนิคในการจัดแสงสำหรับการถ่ายภาพจะมี 3 ทิศทาง คือ แสงด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง

แสงด้านหลัง

โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่จะไม่นิยม ถ่ายภาพย้อนแสง เพราะกลัวแสงเข้ากล้อง หน้าดำ หรือหน้ามืด จริง ๆ แล้ว การถ่ายภาพย้อนแสง จัดว่าเป็นารถ่ายภาพที่สวยงามมีมิติมากที่สุด เพราะสามารถจะเห็นรูปร่าง ของแบบ โดยเฉพาะการถ่ายภาพของบุคคลจะมีความสำคัญมาก เพราะสามารถให้เห็น ลิมพ์ไลฟ์ของเส้นผม ซึ่งทำให้ภาพดูนิ่มนวล ส่วนการแก้ปัญหาความเข้มหรือความมืดที่ใชหน้า ด้วยการใช้รีแฟกซ์ สะท้อนแสง ลบเงา หรือตบแฟชศ์อ่อน ๆ

แสงด้านข้าง
จัดว่าเป็นหัวใจรอง ในการสร้างภาพที่สวยงามการใช้แสงด้านข้าง ส่วนมากจะเป็นการเน้น จุดใดจุดหนึ่งหรือเพียงด้านเดียว การใช้แสงด้านข้าง ยังสามารถบอกมิติสัดส่วนของรูปร่างได้ แสงด้านข้างที่นิยมใช้ในการบันทึกภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพบุคคล ในการถ่ายแบบ หรือการถ่ายสถาปัตยกรรมก็ได้

แสงด้านหน้า
สำหรับผู้ที่ถ่ายภาพแบบมืออาชีพ หรือผู้ที่มีความเข้าใจในการสร้างภาพสวย จะไม่นิยมถ่ายบันทึกภาพกัน เพราะจะทำให้ภาพดูแบน ไร้มิติ สีสันในองค์ประกอบจะจืด เพราะโดนความจ้าของแสงด้านหน้า บดบังทำให้สีหรือใบหน้า ดูจืดชืดไม่สะดุดตา

ดังนั้น การจัดทิศทางแสงในการถ่ายภาพ จึงมีความสำคัญไม่น้อย และจะขาดเสียไม่ได้ แสงในการถ่ายภาพเราะจนิยมถ่ายในช่วงเวลา เช้า หรือแดดอ่อน ๆ ที่ดวงอาทิตย์ทำมุมประมาณ 30 - 40 องศา นั่นคือ พื้นฐานในการนำทิศทางแสงมาช่วยปรุงแต่ง เพิ่มเติมความสวยงามในภาพ เป็นเรื่องที่สำคัญอีกขั้นหนึ่ง